วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ

      ในปัจจุบันนั้น ได้มีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันอย่างมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของมนุษย์ให้มากขึ้น  รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งหมายถึง การนำการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสารสนเทศ ทำให้สารสนเทศมีประโยชน์และใช้งานได้กว้างขวางมากขึ้น ทำให้ข้อมูลข่าวสารเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ ผ่านทางอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ


วันนี้ผมจะมาพูดถึงเจ้าสิ่งนี้   าวเทียม (Satellite)


      ดาวเทียม เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์คิดค้นขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การพยากรณ์อากาศ การทหาร การค้า หรือแม้แต่การศึกษา โดยการทำงานนั้น ดาวเทียมจะถูกส่งขึ้นไปในอวกาศ และโคจรอยู่รอบโลกด้วยแรงดึงดูดของโลก โดยจะทำหน้าที่เหมือนสถานีทวนสัญญาณ คือจะรับสัญญาณที่ยิงมาจากโลก เมื่อรับมาจะทำการขยายสัญญาณพร้อมทั้งแปลงสัญญาณให้มีความถี่ต่ำลงเพื่อป้องกันการรบกวนกันระหว่างสัญาณขาขึ้นและส่งกลับลงมายังโลก โดยมีจานสายอากาศทำหน้าที่รับและส่งสัญญาณ

ประเภทของดาวเทียมนั้นมี 5 ประเภท

1.ดาวเทียมสื่อสาร ดาวเทียมที่ทำงานตลอดเวลา ทำหน้าที่เชื่อมโยงเครื่อข่ายสื่อสารของโลกเข้าไว้ด้วยกัน โดยการเป็นที่พักสัญญาณและกระจายสัญญาณไปยังจุดรับสัญญาณต่างๆ ทั่วโลก และสามารถส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ ข้อมูลต่างๆ รวมถึงสัญญาณภาพโทรทัศน์ไปได้ทุกหนแห่งทั่วโลก

2.ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร การทำงานนั้นจะเป็นการผสานกันระหว่างเทคโนโลยีการถ่ายภาพและการโทรคมนาคม โดยเป็นการสำรวจจากข้อมูลจากระยะไกล โดยการใช้คลื่นแสงที่เป็นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในการจำแนกทรัพยากรต่างๆ ที่สำคัญ

3.ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา เป็นดาวเทียมที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศด้วยภาพถ่ายโลกจากมุมสูง มีประโยชน์ในการพยากรณ์อากาศ รวมถึงการเตือนภัยจากภัยธรรมชาติ

4.ดาวเทียมบอกตำแหน่ง เป็นระบบที่ใช้หาตำแหน่งด้วยดาวเทียม(GPS) ถูกพัฒนาโดยกองทัพของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันได้นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ต่างๆ โดยใช้เป็นระบบนำร่องในการเดินทาง

5.ดาวเทียมอื่นๆ ได้แก่ ดาวเทียมสมุทรศาสตร์ ดาวเทียมจารกรรม ดาวเทียมสำรวจอวกาศ


   
        ในชีวิตของผมที่ดำเนินอยู่ในทุกวันนั้น อาจมีการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมอยู่บ้าง 2-3 ประเภท ในเรื่องของการบอกตำแหน่งเวลาเดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไป หรือการดูพยากรณ์อากาศและเตือนภัยก่อนออกจากบ้าน แต่ประเภทที่เข้ามามีบทบาทมากที่สุดคงไม่พ้นในเรื่องของการสื่อสาร ทั้งการใช้โทรศัพท์พูดคุยติดต่อสื่อสาร รับฟังวิทยุ หรือดูรายการต่างๆ ในโทรทัศน์ เพื่อความบันเทิงและเพื่อที่จะได้รับข่าวสารจากที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำอยู่ในทุกๆ วัน แต่ประโยชน์ของดาวเทียมนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้

  
ดาวเทียมกับการศึกษา
      ในด้านของการศึกษานั้น ในฐานะที่เป็นนิสิตครูและได้เรียนรู้มา ก็มีการนำมาใช้ในระบบ Video Conference เป็นการใช้ประโยชน์ในการประชุมทางไกล สามารถนำข้อมูลมาได้ทั้งภาพและเสียง ผู้สนทนาสามารถสื่อสารโต้ตอบกันได้ สำหรับการศึกษาทางไกลที่ผู้เรียนและผู้สอนอยู่กันคนละที่นั้น  จะช่วยลดภาระทั้งผู้เรียนและผู้สอนในเรื่องระยะเวลา การเดินทาง สถานที่ ทำให้การสอนเป็นไปอย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพมากขึ้น กระจายโอกาสทางการศึกษา  แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องต่างๆ อย่างเช่น การใช้โทรทัศน์เป็นสื่อการสอนทางเดียวทำให้ไม่สามารถโต้ตอบกันได้ หากมีข้อสงสัยต้องติดต่อกันนอกเวลา เช่น ทาง E-mail หรือโทรศัพท์ แต่ก็เป็นข้อดีไปในตัว เพราะทำให้ได้รับความรู้มากขึ้น เนื่องจากผู้สอนมีเวลาค้นหาและผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร

       ไม่ว่าจะอย่างไรเทคโนโลยีที่มีประโยชนน์มากมายมหาศาลแค่ไหน ถ้านำมาใช้ในทางที่ผิดก็ก่อให้เกิดโทษมหาศาลเช่นกัน อย่างเช่นดาวเทียมจารกรรมที่ใช้ติดตาม สำรวจ ถ้านำมาใช้ในทางที่ผิดอาจทำให้คนๆหนึ่งไม่มีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวเลยก็ได้ หรือนำมาใช้ในการโจรกรรม หรือดาวเทียมสื่อสาร ถ้านำมาเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความลับของชาติ ก็อาจทำให้เกิดสงครามได้ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและการนำไปใช้ และที่สำคัญมนุษย์เป็นผู้สร้างเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบาย แต่ต้องไม่ยอมตกเป็นทาสของเทคโนโลยีซะเอง โดยการไม่หยุดอยู่กับที่ พึ่งพาแต่เทคโนโลยี แต่ต้องพยายามพัฒนา สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เสมอ 




วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ : Modern 9 TV

       สวัสดีครับ.. วันนี้ผมจะพาไปพับกบ พบกับแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่ผมเพิ่งไปมาล่าสัตว์ เอ้ย ล่าสุด นั่นก็คือ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี หรือช่อง 9 อสมท นั่นเอง


       บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ขอเรียกสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ว่าช่อง9 นะครับ เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อก่อนคือช่อง 4 นั่นเอง สถานที่ตั้งอยู่ที่ 63/1 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 สำหรับคนพื้นที่อาจจะไม่ต้องเป็นทางการขนาดนี้ พูดแค่อยู่หลังห้างดังเซนทรัลพระรามเก้าก็คงร้องอ๋อกันแล้ว

      บริษัทแห่งนี้ทำงานเกี่ยวกับรายการวิทยุและโทรทัศน์ โดยรายการวิทยุนั้นจะมีทั้งหมด 8 คลื่น เป็น FM หกคลื่น ได้แก่ 95,96.5,97.5,99,100.5,107 และ AM อีกสองคลื่น คือ 1494 และ 1143 ซึ่งจะมีทั้งรายการเพลงสตริง ลูกทุ่ง ข่าว และรายงานผลฟุตบอล ส่วนรายการโทรทัศน์ก็มีมากมาย เป็นทั้งบันเทิงคดีและสารคดี รวมถึงรับงานโฆษณาต่างๆด้วย

       ที่ช่อง 9 นี้เป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่ครอบคลุมหลายประเภทมาก ไม่ว่าจะเป็น บุคคล สถานที่ หรือสื่อ วัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยี ตัวผมเองนั้นเคยมาที่นี่ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ มาดูวิธีการจัดรายการโทรทัศน์ รายการ "บอกเก้าเล่าสิบ" ซึ่งพี่เขาจะให้เราเข้าไปอยู่กับทีมงานเลย รวมถึงพิธีกร เรียกได้ว่าใกล้ชิดสุดๆ สามารถสอบถามได้ทุกเรื่อง ทำให้สามารถที่จะเรียนรู้ได้จากการเตรียมการและวิธีทำงานของพี่ๆทีมงานทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า โดยทีมงานเบื้องหลังจะมีการเตรียมสคริปต์บทพูด เตรียมฉาก ตรวจสอบการจัดวางตำแหน่งกล้อง แสงและเสียง ส่วนพิธีกรก็จะทำการซักซ้อมก่อนที่จะเข้ารายการ พวกพี่ๆ เขาทำงานกันเป็นมืออาชีพมาก แม้จะเป็นรายการสด ก็ไม่มีผิดพลาดกันเลย พอจบรายการนี้ก็จะเข้าสู่รายการถัดไปทันที เรียกได้ว่าทีมงานเบื้องหลังแทบไม่ได้หยุดพักเลย

       ส่วนครั้งที่สองนั้นเป็นการดูการทำงานส่วนต่างๆ ของสถานที่โดยจะมีพี่วิทยากรพาเดินชม ซึ่งก็จะมีห้องที่ใช้อัดรายการสด ห้องควบคุมตัดต่อ ห้องควบคุมเสียง ห้องรายการวิทยุ และก็ห้องฝ่ายศิลป์ที่คอยจัดทำฉากหรือพร้อบต่างๆ เพียงแต่การไปครั้งนี้จะไม่ได้เข้าไปใกล้ชิดมากเท่าที่ควร เพราะไปกับเพื่อนๆเยอะ และสถานที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไร ทำได้เพียงมองผ่านกระจกจากข้างนอก แต่จะมีพี่วิทยากรคอยอธิบายการทำงาน ถ้าบางห้องไม่ได้มีคนใช้งานอยู่ ก็จะได้ทดลองใช้อุปกรณ์จริงๆ อย่างกล้องวิดีโอที่ใช้ถ่ายรายการโทรทัศน์ราคาหลักล้าน เรียกได้ว่าเกิดมาเพิ่งเคยแตะของมีราคาขนาดนี้ ตื่นเต้นดีครับ  




การบูรณาการแหล่งเรียนรู้
       สำหรับการบูรณาการแหล่งการเรียนรู้นั้นก็น่าจะอยู่ในหมวดการงานและเทคโนโลยี และก็เรียกได้ว่าตรงกับวิชาเอกของผมเลย เทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา (แต่ถ้าให้ลึกก็คงนิเทศน์ศาสตร์)  คืองานต่างๆ ส่วนมากก็จะเป็นงานที่ได้เรียนได้ทำไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูป ตัดต่อ จัดรายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ ซึ่งก็คล้ายๆกับที่เรียนมา แต่การมาดูงานที่นี่ก็ทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้นไปอีก รู้เทคนิคต่างๆมากขึ้น เพราะได้รับความรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรง และการตอบคำถามที่ชัดเจนจากข้อสงสัยต่างๆ รวมถึงวิธีการทำงานที่ดูเป็นแบบแผน  เรียกได้ว่าความรู้มีอยู่รอบตัวเลย ไม่ว่าจะจากการสังเกตุ ถามไถ่ หรือเรียนรู้จากการทำงาน ซึ่งสามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการดูงานมาพัฒนาใช้กับตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตประจำวัน